วันจันทร์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

โรคเรื้อรังคืออะไร ?

คนป่วยที่ต้องกินยาทุกวันเป็นเครื่องชี้ (indicator) ของโรคเรื้อรัง หากวันใดหรือมื้อใดมิได้กินยา ตามแพทย์สั่ง ก็จะมีอาการกำเริบขึ้นมา เช่น ความดันโลหิตสูง ทำให้ปวดศีรษะ บ้างก็ปวดเสียดหัวใจ บ้างก็หงุดหงิด

ยังมีคนอีกมากที่ไม่รู้ว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและแผลเบาหวาน อาการแผลหายช้ากว่าปกติ ผิวหนังเป็นฝ้าได้ง่าย อาการภูมิแพ้ผิวหนัง อาการลำไส้ตรง (กินอาหารทุกมื้อแล้วต้องถ่ายหนักภายใน 1 ชั่วโมง) อาการปวดเมื่อยหลังหรือเอว อาการกระดูกงอกทับเส้นประสาท อาการปวดข้อ ปวดเข่า มวลกระดูกต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน อาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ อาการปัสสาวะออกยาก ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะหยดย้อย ปัสสาวะไม่โชน (แรง) อาการนกเขาไม่ขัน โรคไตวายเรื้อรัง ต่อมลูกหมากโต อาการภูมิแพ้จมูก อาหารเป็นพิษ ทำให้ท้องเสียรุนแรงพร้อมๆ กับคลื่นไส้อาเจียน ผมร่วงแล้วไม่ขึ้น ผมหงอกก่อนวัยอันควร นิ้วล็อค บ้านหมุน หูดับ หูอื้ออึง


นอกจากนี้โรคที่เสทือนใจทุกคน เช่น โรคมะเร็ง โรคแพ้ภูมิตนเอง โรค SLE โรคเอดส์ ก็นับว่าเป็นโรคเรื้อรังที่ยากต่อการรักษา
ท่านเชื่อหรือไม่ งานวิจัยของเราพบว่า อาการดังกล่าวทั้งหมดมีสาเหตุมาจากแหล่งเดียวกัน คือ โภชนาเกินและขาด
โภชนาเกิน เป็นอย่างไร? คำตอบก็คือ กินน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีมากเกินไป กินทุกวันๆ ละหลายๆ มื้อ มื้อที่เราคิดไม่ถึงก็มี เช่น coffee break ทั้งนี้เพราะในครีมเทียมที่ชงกาแฟก็มี trans fat ซึ่งเป็นน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีรูปแบบหนึ่ง มื้ออาหารเบาๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็มีน้ำมันที่ใช้ทอด บะหมี่และน้ำมันเจียวหอม

โภชนาขาด เกิดขึ้นจาก โภชนาเกิน

เป็นไปได้ เป็นไปแล้ว และกำลังเป็นต่อไป เพราะกินน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ที่มีสัดส่วนไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ในรูปแบบของการทอด การผัด ที่ใช้ความร้อนสูงเกินกว่า ๖๐ องศาเซลเซียส จะทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมี กลายเป็นไขมันอิ่มตัว โดยเราสามารถสังเกต ได้จากคราบน้ำมันที่ติดแห้งกรังกับกระทะ เตา ข้างฝาครัว ที่ต้องใช้เคมีพิเศษในการขจัดคราบ แม้ว่าน้ำมันเหล่านี้จะไม่เป็นไขในตู้เย็น แต่ในร่างกายมนุษย์มันจะเหนียวหนึบ โดยเฉพาะในลำไส้เล็ก และหน่วยไต ทำให้การดูดซึมสารอาหารที่ละลายน้ำ เช่น วิตามินบี ซี กรดอมิโน เข้าสู่ร่างกาย (เซลล์) ไม่พอเพียง นอกจากนี้ในคนป่วยที่ดื้อยาก็พบว่า มักกินยาที่ถูกออกแบบให้ดูดซึมที่ลำไส้เล็ก

เคยสังเกตไหมว่า คนไทยส่วนใหญ่เลิกกินน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันหมูมานานเกือบ ๓๐ ปีแล้ว แต่ทำไมโรคหลอดเลือดและหัวใจ ยังติดอันดับหนึ่งสาเหตุการตาย และดูเหมือนว่าคนป่วยที่ตาย จะมีจำนวนมากขึ้นแข่งกับโรคมะเร็ง และเบาหวาน

ทำไมงานวิจัยของบริษัทขายนมผงที่มี มาช่า เป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงบอกว่าคนไทยได้รับแคลเซียมเพียง ๓๐% อยากได้ครบ ๑๐๐% ต้องดื่มถึง ๔ แก้ว คำตอบก็คือ ลำไส้เล็กและไตไม่ดูดซึมแคลเซี่ยมเท่าที่ควร

น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี คือ น้ำมันพืชที่ผ่านการกลั่น (refined) ฟอกสี (bleached) และแต่งกลิ่น (deodorized) เรียกย่อๆ ว่า RBD ในขบวนการ RBD นี้จะทำให้แขนพันธะเคมีที่มีอยู่สองข้าง (double bond) ของไขมันไม่อิ่มตัว จับกับธาตุไฮโดรเจน กลายเป็น Hydrogenated หรือที่เรียกว่า Trans fat

Trans fat ใช้ทอดอาหารทำให้กรอบอร่อย ไม่เหม็นหืนง่าย ทอดได้หลายครั้งสีไม่ค่อยดำ แต่อันตราย ! รัฐบาลท้องถิ่นรัฐนิวยอร์คมีกฎหมายห้ามร้านอาหาร ภัตตาคารทุกแห่งใช้ Trans fat ประกอบอาหารขาย บริษัทฟาสฟู๊ด KFC ก็ประกาศเลิกใช้น้ำมันพืชที่เติมไฮโดรเจน (Hydrogenated) ในการทอดแล้วเมื่อกลางปี 2550

ทำไมรัฐบาลนิวยอร์คจึงห้ามน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี แต่ไม่บอกสาเหตุให้ชาวโลกรู้? คำตอบคือ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ทำการวิจัยเมื่อ ๓๐-๔๐ ปีก่อนนี้ว่า น้ำมันพืชที่ดีต้องมีสัดส่วน ไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันจากถั่วเหลือง ซึ่งเกษตรกรสหรัฐได้อานิสงส์ในการส่งออกมากที่สุด สหรัฐทำให้คนทั่วโลกเชื่อ (โดยเฉพาะบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์) ว่าไขมันไม่อิ่มตัว จะไม่ทำให้เกิดภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง แต่ ๓๐ ปีผ่านไป คนทั่วโลกยังมีปัญหานี้อยู่ตลอด และแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ

ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา อดีตข้าราชการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (วว.) ได้เปิดโปง hidden agenda หรือ แผนการอันนี้ และอธิบายเพิ่มเติมว่า น้ำมันมะพร้าวที่มีสัดส่วนไขมันอิ่มตัวสูง มีพันธะเคมีแขนเดียว (single bond) ไม่จับกับธาตุไฮโดรเจน เพราะความอิ่มตัวตามธรรมชาติ มีอยู่มากถึงกว่า ๙๐% คนไทย คนในเอเซียอาคเนย์ ชาวฮาวาย ชาวโปลีเนเชี่ยน ล้วนแต่ใช้น้ำมันมะพร้าว มาตั้งแต่บรรพกาล ไม่ปรากฎว่ามีโรคหลอดเลือดและหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง ระบาดในหมู่ประชาชน เหมือนเช่นสมัยนี้ ที่ใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี

ความกลัวที่ว่าน้ำมันหมูและน้ำมันมะพร้าวเป็นไขในร่างกายคน เป็นความคิดที่ผิดควรจะคิดใหม่ ทำใหม่ เพราะน้ำมันทั้ง ๒ ชนิดจะแข็งตัวเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า ๒๕ องศาเซลเซียส ในขณะที่ร่างกายมนุษย์แม้อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือและใต้ก็ยังสูงถึง ๓๕-๓๗ องศาเซลเซียส

เมื่อรู้แล้วว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี+ความร้อนสูง เป็นสาเหตุสำคัญของ โรคเรื้อรังทั้งปวง จึงควรที่คนไทยต้องตระหนัก ถึงสุขภาพของตนเอง หันมากินอาหารต้ม นึ่ง ปิ้ง ย่าง ที่ไม่ต้องอาศัยน้ำมันพืช แล้วคนไทยก็จะมีน้ำมันพืชไว้ทำไบโอดีเซลมากขึ้นในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น: